ในการวิเคราะห์ฟุตบอลสมัยใหม่จำนวนประตูที่คาดหวัง (xG)กลายมาเป็นตัวชี้วัดหลักที่ใช้ในการประเมินผลงาน แม้ว่าจะให้ความสำคัญกับxGในเกมรุก เป็นอย่างมาก แต่ค่า xG ที่เสียใน แนวรับ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประตูที่เสียจริงแล้วตัวชี้วัดนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการป้องกันของทีมและผลงานของผู้รักษาประตู
ในบทความนี้ เราจะอธิบายความแตกต่างระหว่างค่า xG ที่เสียกับจำนวนประตูที่เสียจริง สำรวจว่าช่องว่างระหว่างค่าทั้งสองมีความสำคัญอย่างไร และแสดงให้เห็นว่านักวิเคราะห์และโค้ชใช้สถิติเหล่านี้เพื่อประเมินประสิทธิภาพของแนวรับอย่างไร
xG Conceded คืออะไร?
xG ที่เสียไปหมายถึง จำนวนประตูทั้งหมดที่ทีมหรือผู้รักษาประตูคาดว่าจะเสียไป โดยพิจารณาจากคุณภาพของโอกาสที่เสียไป โดยแต่ละลูกที่เสียไปจะได้รับ ค่า xGตามปัจจัยต่างๆ เช่น:
- ระยะทางถึงเป้าหมาย
- มุมของการยิง
- รูปแบบการแอสซิสต์ (เช่น จ่ายบอล, เปิดบอล, ตั้งรับ)
- ส่วนของร่างกายที่ใช้ (เท้า, หัว, ฯลฯ)
- สถานการณ์การยิง (การเล่นเปิด, การโต้กลับ, จุดโทษ ฯลฯ)
ตัวอย่างเช่น หากทีมต้องเผชิญกับการยิงที่มีค่า xG 0.2, 0.4 และ 0.3 ค่า xG ที่ทีมเสียไปในเกมนั้นคือ 0.9 ซึ่งหมายความว่าทีมคาดว่าจะเสียประตูประมาณ 0.9 ประตู โดยขึ้นอยู่กับคุณภาพของโอกาสที่ทีมเสียไป
ประตูที่แท้จริงที่เสียไปคืออะไร?
วิธีนี้ตรงไปตรงมา: ประตูที่เสียจริงคือจำนวนประตูที่ทีมหรือผู้รักษาประตูเสียจริงในช่วงเวลาที่กำหนด แม้ว่า xG ที่เสียจริงจะสะท้อนถึงความน่าจะเป็นที่จะเสียประตูตามคุณภาพของการยิง แต่ประตูที่เสียจริงคือผลลัพธ์ที่แท้จริง
เหตุใดจึงต้องเปรียบเทียบค่า xG ที่เสียกับจำนวนประตูที่เสียจริง?
การเปรียบเทียบระหว่างตัวชี้วัดทั้งสองจะช่วยระบุได้ว่าการป้องกันของทีมมีประสิทธิภาพเกินคาด ต่ำกว่าคาด หรือมีประสิทธิภาพตามที่คาดหวัง
ประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตรฐาน
หากทีมเสียประตูมากกว่าค่า xG ที่เสียไปนั่นอาจบ่งบอกว่า:
- ผู้รักษาประตูไม่ดี
- ข้อผิดพลาดในการป้องกันของแต่ละบุคคล
- โชคร้าย (เช่น การเบี่ยงบอล การทำประตูตัวเอง)
- ปัญหาการป้องกันในระบบ (เช่น ไม่สามารถบล็อกช็อตได้ การป้องกันที่อ่อนแอในพื้นที่สำคัญ)
ประสิทธิภาพเกินประสิทธิภาพ
หากทีมเสียประตูน้อยกว่าค่า xG ที่เสียไปอาจบ่งบอกได้ว่า:
- ผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม
- การป้องกันครั้งสุดท้ายอย่างมีประสิทธิภาพ
- วินัยทางยุทธวิธีที่จำกัดโอกาสการติดตามที่ชัดเจน
- โชคเล็กน้อยหรือการจบสกอร์ที่ไม่ดีของคู่ต่อสู้
xG ที่เสีย ≈ ประตูที่เสีย
โดยทั่วไปนี้จะบ่งบอกว่าการป้องกันกำลังดำเนินไปตามที่คาดหวัง ไม่ใช่เรื่องโชคดีหรือโชคร้ายแต่อย่างใด
กรณีการใช้งาน: การประเมินผู้รักษาประตู
การเปรียบเทียบนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการประเมินผู้รักษาประตู ผู้รักษาประตูที่ เสียประตูน้อยกว่าที่คาดไว้อย่างสม่ำเสมอมีแนวโน้มที่จะรักษาคะแนนของทีมไว้ได้และทำผลงานได้ดีกว่าผู้รักษาประตูทั่วไป
ตัวอย่างเช่น หากผู้รักษาประตูต้องเผชิญหน้ากับการยิง 50 ครั้งโดยมีค่า xG รวมอยู่ที่ 15 แต่เสียประตูเพียง 10 ประตู ผู้รักษาประตูก็จะสามารถเซฟ “ประตูที่คาดหวัง” ได้ 5 ประตู ซึ่งถือเป็นสัญญาณของการหยุดลูกยิงชั้นยอด
มักเรียกค่าเมตริกนี้ว่าป้องกันประตูได้หรือxG หลังจากการยิง ลบด้วย ประตูที่เสียขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการข้อมูล
กรณีการใช้งาน: การประเมินระบบป้องกัน
จากมุมมองทางยุทธวิธี การยอมแพ้ของ xG สามารถเผยให้เห็นได้ว่าทีมสามารถจำกัดโอกาสที่มีคุณภาพสูงได้ดีแค่ไหน
- โดยทั่วไปแล้ว ทีมที่มีค่า xG ที่เสียต่อเกมต่ำมักจะจำกัดฝ่ายตรงข้ามให้ยิงด้วยโอกาสที่ต่ำ ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายของการป้องกันที่แข็งแกร่ง
- ทีมที่มีค่า xG สูงแต่เสียประตูจริงน้อยอาจจะพึ่งพาผู้รักษาประตูมากเกินไปและอาจถดถอยลงได้ในระยะยาว
ดังนั้น ควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงประสิทธิภาพในการป้องกันที่ดีอย่างสม่ำเสมอ เพราะอาจไม่ยั่งยืนได้เว้นแต่ทีมจะปรับเปลี่ยนเพื่อจำกัดคุณภาพการยิง
ตัวอย่าง: ทีม A ปะทะ ทีม B (ในช่วง 10 เกม)

- ทีม Aเล่นเกมรับได้เกินคาด ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้รักษาประตูแข็งแกร่งก็ได้
- ทีม Bมีผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน อาจเป็นเพราะข้อผิดพลาด โชคไม่ดี หรือโครงสร้างการป้องกันที่ไม่มีประสิทธิภาพ
บทสรุป
ความสัมพันธ์ระหว่างxG ที่เสียไปและจำนวนประตูที่เสียไปนั้นถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจประสิทธิภาพของเกมรับ โดยช่วยให้การวิเคราะห์ก้าวข้ามจำนวนประตูที่เสียไปและเข้าถึงคุณภาพของโอกาสที่ทีมเสียไป
สำหรับโค้ช ผู้ค้นหา นักวิเคราะห์ และแฟนๆ การเปรียบเทียบนี้จะช่วยระบุสิ่งต่อไปนี้:
- ไม่ว่าทีมหรือผู้รักษาประตูจะทำผลงานได้ดีเกินความคาดหวังหรือต่ำกว่าความคาดหวัง
- จุดอ่อนด้านการป้องกันเชิงโครงสร้าง
- การถดถอยหรือการปรับปรุงศักยภาพในผลลัพธ์การป้องกัน
โดยสรุป การรวมเมตริกเหล่านี้เข้าด้วยกันจะช่วยให้ได้มุมมองที่ละเอียดและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้น เกี่ยวกับว่าทีมใดป้องกันได้ดีเพียงใด และประสิทธิภาพในการป้องกันของทีมจะยั่งยืนในระยะยาวหรือไม่